เนื้อหาในบทความนี้เราจะมาว่ากันถึงเรื่องของข้อดีและข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนตและพื้นกระเบื้องยางกัน ว่าทั้งพื้นไม้ลามิเนตและพื้นกระเบื้องยางนั้นมีข้อดีและข้อเสียตรงไหน เพื่อนๆ จะได้นำไปปรับใช้กันอย่างถูกต้องนะ
รวมข้อดีและข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนตและพื้นกระเบื้องยาง
- มาเริ่มกันที่ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต คือ มีผิวสัมผัสที่สวยงามให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง สามารถเลือกสี หรือลายไม้ตามแบบที่เราต้องการได้ มีความทนทานต่อการรับน้ำหนัก และแรงกระแทกขีดข่วน มีน้ำหนักเบา ติดตั้ง หรือ เปลี่ยนแผ่นแบบเฉพาะจุดโดยไม่ต้องรื้อใหม่ทั้งหมดเวลาเเผ่นใดแผ่นนึงเกิดความเสียหาย ซึ่งทำได้ง่ายรวดเร็วด้วยระบบกลไกการล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ หรือที่เรียกว่า Click Lock สามารถปูทับ พื้นกระเบื้อง เซรามิค ได้เลย ส่วนข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต คือ ไม่ทนน้ำ และความชื้นสูง ถ้าหากโดนน้ำขังนานเกิน 12 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้เกิดการพองบวม และบิดตัว มีโอกาสโดนปลวกกินถ้าเลือกใช้เกรดไม่ดี มักจะเกิดความเสียหายเวลาที่รับน้ำหนักวัตถุที่มีลักษณะเป็นเดือยแหลมคม เช่น ส้นของรองเท้าส้นแหลม เป็นต้น
- ต่อกันด้วยข้อดีของพื้นกระเบื้องยาง คือ มีพื้นผิวให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่ใช้ภายใน และภายนอกอาคาร ให้การยึดเกาะที่ดี ช่วยลดการลื่น ให้ความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน ทนทานต่อสภาวะอากาศ และสิ่งแวดล้อมปกติ มีความคงทน เหนียว และคงรูปได้ดี มีทนต่อความชื้นได้ดี หมดปัญหาเรื่องปลวก และทำความสะอาดง่าย ใช้เวลาติดตั้งไม่นาน ไม่เกิดฝุ่น ไม่เสียงดังขณะติดตั้ง ส่วนข้อเสีย คือ เกิดรอยขีดข่วนง่าย ไม่ทนต่อการลากถูสิ่งของบนพื้นผิว ไม่ทนต่อกรด ด่าง และสารเคมีบางประเภท ไม่ทนต่อรถเข็นล้อยาง หากใช้ในสถานที่มีรถเข็นที่ใช้ล้อเลื่อนเป็นยางจะทำให้ผิวหน้าเสียหาย ควรเลือกใช้ล้อประเภทพลาสติก หรือ ล้อในล่อน อาจเกิดการยืดหดตัวมากกว่าเกณฑ์ปกติ ถ้าหากเลือกใช้กระเบื้องยางเกรดไม่ดี อาจเกิดความเสียหายจากความชื้นสูง หรือ โดนน้ำท่วมขัง ถ้าหากเลือกใช้กระเบื้องยางเกรดไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 วัสดุนี้คุณไม่สามารถที่จะเนรมิตทุกอย่างขึ้นมาด้วยตนเองได้ แต่คุณจำเป็นที่จะต้องใช้บริการรับออกแบบภายในคอนโดแทน เพราะบริการรับออกแบบภายในคอนโดจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านของงานปูพื้น ฉะนั้นหากคุณไม่อยากเสียเงินหลายต่อ อยากได้งานสวย ครบ ในครั้งเดียวก็ต้องเลือกใช้บริการรับออกแบบภายในคอนโดเลย