ป้ายทางหนีไฟหรือป้ายทางออกฉุกเฉิน ช่วยบ่งบอกให้ผู้ที่อยู่ภายในอาคารสามารถพาตัวเองหรืออพยพออกมาได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอาคาร ช่วยสร้างความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อาคารทุกคน รูปทรงของป้ายทางออกฉุกเฉินหรือป้ายทางหนีไฟคือป้ายทรงสี่เหลี่ยมที่มีแสงสว่างในตัวเอง สีของป้ายจะเป็นสีเขียว ลักษณะตัวอักษรหรือสัญลักษณ์บนป้ายคือสีขาวซึ่งเป็นสีที่ทำให้ดูสะดุดตาสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายแม้อยู่ในระยะไกลก็ตาม
สำหรับมาตรฐานเรื่องของการติดตั้งป้ายทางหนีไฟจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่กรมโยธาธิการและผังเมือง และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย วันนี้เราจะพามาดูเกี่ยวกับมาตรฐานในการติดตั้งป้ายทางหนีไฟและข้อกำหนดเรื่องแสงสว่างของป้ายทางหนีไฟ
มาตรฐานการติดตั้งป้ายทางหนีไฟ
- มีการกำหนดให้ติดตั้งป้ายทางหนีไฟในบริเวณทางออกสู่ทางหนีไฟและประตูที่อยู่ใกล้เส้นทางมากที่สุด เหนือประตูที่อยู่บนทางเดินไปสู่ทางหนีไฟทุกบานและที่สำคัญเลยคือการติดตั้งป้ายทางหนีไฟจะต้องสามารถมองเห็นได้จากทุกทิศทาง
- มีการกำหนดให้ป้ายทางหนีไฟต้องไม่ใช้สีหรือรูปร่างที่ดูกลมกลืนกับการตกแต่งของอาคารหรือดูกลมกลืนกับป้ายชนิดอื่นที่ติดตั้งไว้ใกล้เคียงกัน
- ป้ายทางหนีไฟจะต้องมีสัญลักษณ์แสดงทิศทางการหนีไฟรวมถึงสัญลักษณ์รูปคนวิ่งมีข้อความทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยที่เขียนไว้ว่าทางออกหรือทางหนีไฟภาษาอังกฤษ “Exit”
- ตำแหน่งในการติดตั้งเหนือประตูหรือตามทางเดินให้ติดตั้งที่ความสูงประมาณ 2 ถึง 2.7 เมตร ต้องติดตั้งเหนือประตูทางออกจากห้องที่มีคนอยู่เกินกว่า 50 คน
- การจัดวางตำแหน่งของป้ายทางหนีไฟนั้นถ้ามีขนาด 10 เซนติเมตรจะต้องติดตั้งในระยะ 24 เมตร ขนาด 15 เซนติเมตร ติดตั้งในระยะ 36 เมตรและขนาด 20 เซนติเมตรจะต้องติดตั้งระยะห่างได้ 48 เมตร
ข้อกำหนดเรื่องการส่องสว่าง
- มีการกำหนดให้ป้ายทางหนีไฟต้องมีแสงสว่างจากด้านในหรือด้านนอกของป้ายตลอด 24 ชั่วโมง
- ออกแบบการส่องสว่างจะต้องติดตั้งตามวิธีการที่กำหนดจากผู้ผลิตห้ามมีการดัดแปลงหรือแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น
- แผ่นหน้าของป้ายที่ได้รับแสงสว่างจากแหล่งภายนอกต้องมีค่าความสว่างอย่างน้อย 54 ลักซ์ขึ้นไป
- แหล่งให้พลังงานจะต้องมาจากแหล่งไฟฟ้าปกติโดยแยกวงจรออกจากระบบอื่น
- กรณีไฟดับจะต้องมีแหล่งให้พลังงานสำรองติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 90 นาที สำหรับองค์กรขนาดเล็กและองค์กรขนาดใหญ่ต้องไม่น้อยกว่า 120 นาที
ขอเสริมเรื่องการตรวจสอบจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบระบบการทำงานของไฟและระบบการให้แสงสว่างทุกๆ 3 เดือนด้วยการทดสอบใช้ไฟสำรองเป็นระยะเวลา 30 นาทีและทุกๆ 1 ปีต้องตรวจสอบไปสำรองเป็นระยะเวลา 60 นาที รวมถึงการตรวจสอบประจุแบตเตอรี่เพื่อให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอด้วย